STAM CELL จาก “รากผม”
เคยได้ยินมาบ่อยเรื่องสเต็มเซลล์ มันสำคัญอย่างไร ปลอดภัยหรือเปล่า? เมื่อเราป่วยหรือบาดเจ็บรู้หรือไม่ว่าสเต็มเซลล์ ร่างกายของเราก็จะป่วยไปด้วย เมื่อร่างกายจะอ่อนแอลง ทำให้แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ทำการค้นคว้าวิจัยที่จะใช้ประโยชน์จากสเต็มเซลล์ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จนพัฒนามาถึงปัจจุบันที่สามารถนำสเต็มเซลล์สกัดมาใช้รักษาส่วนที่สึกหรอของร่างกายได้ แล้วสเต็มเซลล์นั้นมีกี่ชนิดคืออะไรบ้างมาคลายข้อสงสัยกันคะ
สเต็มเซลล์ แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ
1.1 Stem Cell ตัวอ่อน หรือเรียกกันบ่อยๆว่าเซลล์ต้นกำเนิด
เป็นสเต็มเซลล์ที่สมบูรณ์ที่สุดและพร้อมจะแตกตัวไปทำหน้าที่ต่างๆในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ได้มาจากตัวอ่อนหรือรกของทารก ในทางการแพทย์ใช้สเต็มเซลล์ที่สกัดจากเซลล์ต้นกำเนิดไปรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคทางเลือด,ภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำเนิด,มะเร็งบางชนิด,ไขกระดูกฝ่อ
1.2 Stem Cell โตเต็มวัย
คือสเต็มเซลล์ที่เติบโตเป็นเป็นส่วนอื่นๆเฉพาะเจาะจงเท่านั้น เช่น สเต็มเซลล์จากเลือดก็จะไปทำปฎิกิริยากับเซลล์เกล็ดเลือดเท่านั้น สเต็มเซลล์ผิวหนังก็จะเปลี่ยนเป็นเซลล์ผิวหนังเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนไปเป็นเซลล์อื่นได้ ซึ่งจะมีข้อด้อยกว่าสเต็มเซลล์ต้นกำเนิดพอสมควร
แล้วสเต็มเซลล์จากรากผมจัดว่าเป็นเสต็มเซลล์ในประเภทไหน แน่นอนว่าสเต็มเซลล์จากรากผมจัดเป็นเซลล์ที่เข้าไปซ่อมแซมเฉพาะเส้นผมและหนังศีรษะโดยตรงเท่านั้น จึงจัดเป็นสเต็มเซลล์แบบโตเต็มวัยค่ะ
สเต็มเซลล์ที่สกัดได้จากรากผม จะเป็นเซลล์ที่บริสุทธิ์และยังคงความมีชีวิตอยู่พร้อมเจริญเติบโตแตกตัวไปทำปฎิกิริยากับส่วนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง จากฮอร์โมนและพันธุกรรมโดยเฉพาะ การทำงานของสเต็มเซลล์ที่สกัดจากรากผมจะทำหน้าที่เฉพาะเจาะจงไปที่เส้นผมและหนังศีระษะที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง เท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวกลายพันธ์หรือไม่ปลอดภัยเหมือนข่าวที่เคยได้ยินเลยคะ
อย่างที่บอกเซลล์ถ้าเราใช้เซลล์ของตนเองย่อมต้องมีความปลอดภัยกว่าการใช้เซลล์ของคนอื่น การที่เราใช้เซลล์รากผมของตัวเองมาสกัดเป็นสเต็มเซลล์ถือว่าเป็นวิธีใหม่แต่ในต่างประเทศ การใช้สเต็มเซลล์จากรากผมมารักษาผมร่วง ผมบาง จากฮอร์โมนและพันธุ์กรรมมีมานานแล้ว ในอุตสาหกรรมความงามมีการใช้สเต็มเซลล์สกัดจากส่วนต่างๆมาใช้เพื่อชะลอการเกิดริ้วรอยหรือทำให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ เช่นการทำเลือดมาสกัดสเต็มเซลล์แล้วฉีดทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นคะ
