สาระสำคัญในบทความ
ไม่ว่าเราจะดูแลเส้นผมดีแค่ไหน ก็ไม่อาจต้านพลังแห่งกรรมพันธุ์ได้ นี่คือหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของปัญหาผมบาง ศีรษะล้านก่อนวัยที่ใครก็ไม่อยากเจอ สำหรับคนอายุน้อยที่กำลังประสบกับปัญหานี้อยู่ แล้วมีความคิดที่อยากจะปลูกผม อาจเกิดคำถามที่ว่า
“อายุเท่าไหร่ถึงจะสามารถปลูกผมได้?”
มาทำความเข้าใจในบทความนี้กันสาเหตุผมร่วงจากกรรมพันธุ์ ฮอร์โมน
ในเพศชายและหญิง ?
ปัญหาผมร่วง ผมบางจากกรรมพันธุ์พบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย พบบ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง สาเหตุหลักๆ มาจากฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) เป็นฮอร์โมนที่มีผลต่อการกำหนดลักษณะของเพศชาย แต่ก็พบได้ในเพศหญิงเช่นกัน โดยปกติผู้ชายผมจะเริ่มบางเมื่อเข้าสู่อายุ 30 – 35 ปี และบางลงเรื่อยๆ ตามอายุที่มากขึ้น เริ่มถอยร่นจากบริเวณหน้าผาก หรือผมบางบริเวณกลางศีรษะ และมีโอกาสศีรษะล้านได้ทั้งหมด ส่วนผู้หญิงผมจะเริ่มบางเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป จะบางชัดขึ้นในช่วงก่อนเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน เริ่มจากบริเวณรอยแสกกลางศีรษะ และจะค่อยๆ บางลงแบบขยายวงกว้าง
ปัญหาสภาพเส้นผมที่ทำให้เกิดผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านในช่วงวัยต่างๆ ?
- วัยรุ่น (อายุน้อยกว่า 20 ปี)
บางคนอาจเริ่มสังเกตเห็นปัญหาผมร่วงในช่วงวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้ชายที่มีแนวโน้มจะเผชิญกับปัญหานี้ เนื่องจากร่างกายสร้างฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) เพิ่มขึ้น ฮอร์โมนนี้จะเร่งให้เส้นผมโดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและกลางศีรษะบางลง ในกรณีอายุน้อยแล้วมีผมร่วง ส่วนใหญ่มักมีโรคแฝงหรือพันธุกรรม แพทย์จะแนะนำให้ตรวจเลือดเพื่อหาสาเหตุก่อนทำการรักษาถัดไป - ช่วงอายุ 20 – 30 ปี
ในช่วงวัยนี้อาการผมร่วงอาจเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นสำหรับบางคน สำหรับคนที่ผมเริ่มบางแต่ยังไม่ถึงกับศีรษะล้าน ยังมีรากผมอยู่ สามารถทำทรีตเมนต์เพื่อกระตุ้นรากผมที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง การปลูกผมในวัยนี้สามารถทำได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและความเสี่ยง - ช่วงอายุ 30 – 40 ปี
เป็นช่วงวัยที่หลายคนเริ่มพิจารณาการปลูกผมอย่างจริงจังมากขึ้น เนื่องจากสภาพเส้นผมบางและอ่อนแอลงเรื่อยๆ เห็นแนวโน้มของการหลุดร่วงของเส้นผมชัดเจนว่าบริเวณไหนจะมีปัญหาในระยะยาว ทำให้สามารถวางแผนการปลูกผมให้เหมาะสมได้ - ช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป
การปลูกผมในวัย 40 ปีขึ้นไปยังคงสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อัตราการเกิดใหม่ของเส้นผมจะลดลง อย่างไรก็ตามแพทย์จะพิจารณาปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น จำนวนผมที่เหลืออยู่ ความแข็งแรงของเส้นผมด้านหลัง โรคประจำตัว ที่อาจทำให้การปลูกผมถาวรไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
อายุเท่าไหร่ถึงปลูกผมได้?
**ในบทความนี้ จะกล่าวถึงการปลูกผมในกรณีที่สาเหตุ
ผมบาง ศีรษะล้านเกิดจากฮอร์โมน กรรมพันธุ์
ไม่ใช่เกิดจากแผลไฟไหม้ แผลน้ำร้อนลวก** ยังไม่มีข้อกำหนดที่แน่ชัดว่า ควรปลูกผมที่อายุเท่าไหร่ ถ้าเป็นไปตามทฎษฎีโดยอ้างอิงจากสภาพผม จะเริ่มปลูกที่อายุ 25 – 60 ปี ในบางคนที่เริ่มมีปัญหาผมร่วง ผมบางช่วงอายุ 20 – 25 ปี แพทย์อาจยังไม่แนะนำให้ทำการปลูกย้ายเซลล์รากผม
ทั้งนี้แพทย์จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป เนื่องจากการปลูกผมเป็นการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณท้ายทอย ซึ่งเป็นรากผมที่แข็งแรง ไม่โดนผลกระทบจากฮอร์โมน ซึ่งจุดที่เส้นผมถูกนำมาใช้นั้นผมจะไม่ขึ้นอีก
หากทำการปลูกผมในช่วงอายุน้อยกว่า 25 ปี แน่นอนว่าได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่จะคงอยู่แค่ประมาณ
3 – 5 ปี เพราะในอนาคตมีโอกาสที่ผมในจุดที่ไม่ได้ทำการปลูกจะร่วงต่อไปเรื่อยๆ ตามอายุที่มากขึ้น ทำให้มีโอกาสต้องปลูกซ้ำ ในขณะที่เส้นผมบริเวณด้านหลังเหลืออยู่อย่างจำกัด เนื่องจากถูกนำไปใช้ในการปลูกผมก่อนหน้านี้แล้ว ก็จะเกิดปัญหาว่าเหลือผมไม่เพียงพอให้นำมาเติมต่อในบริเวณที่เกิดปัญหานั่นเอง
ในกรณีที่อายุมาก สามารถเข้ารับการปลูกผมได้หรือไม่? ตัวอย่างเคสคนไข้อายุ 80 ปีที่เข้ามาทำการรักษากับทางคลินิกปลูกผมก็ไม่ได้เป็นปัญหาเรื่องอายุแต่อย่างใด อายุมากใช่ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพเส้นผมและสภาพร่างกาย แพทย์จะทำการประเมินและวางแผนเพื่อนำกราฟต์ผมของคนไข้มาทำการรักษาให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
นอกจากเข้ารับการปลูกผม ยังมีวิธีการอื่นในการรักษาร่วมด้วยหรือไม่?
ใครที่อายุ 20 – 40 ปี หากคุณพ่อคุณแม่มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน ต้องมีการวางแผนการรักษาระยะยาว เพราะในอนาคตมีโอกาสเป็นเหมือนกับพ่อแม่ได้ ข้อสังเกตหลังการปลูกผม คือ ผมที่ปลูกจะไม่รับฮอร์โมนที่เป็นสาเหตุของปัญหาศีรษะล้าน แต่ผมก็ที่มีอยู่แล้วนั้นจะหลุดร่วงบางลงเรื่อยๆ ตามอายุ ต้องดูแลรักษาให้ดีเพื่อชะลอการหลุดร่วงให้ผมอยู่กับเราได้นานที่สุด ในการรักษาจะมีการทานยาและหยอดยาร่วมด้วยในตำแหน่งที่ผมยังไม่ร่วง อาจมีการทำ PRP (Platelet Rich Plasma) หรือนวัตกรรมรักษาผมบางอื่นๆ เพื่อเสริมความแข็งแรงแก่รากผม และกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม โดยแพทย์แต่ละท่านจะแนะนำการรักษาที่ต่างกันไปในแต่ละคน
อายุเป็นอีกปัจจัยสำคัญ ที่มีผลต่อการปลูกผม แต่ไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลขเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เมื่อเริ่มสังเกตเห็นเส้นผมร่วงเยอะมากกว่าปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการผมร่วงและวางแผนการรักษาผมบางที่เหมาะสม เพื่อช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมาอีกครั้ง ลดความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเส้นผมในปัจจุบันและแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
FAQs
อายุเท่าไหร่ถึงปลูกผมได้?
โดยทั่วไปสามารถปลูกผมได้ตั้งแต่อายุ 25 ถึง 60 ปี สำหรับผู้ที่เริ่มมีผมร่วงตั้งแต่อายุ 20-25 ปี แพทย์อาจไม่แนะนำให้ปลูกผม เพราะหากปลูกก่อนอายุ 25 ผลลัพธ์อาจคงอยู่เพียง 3-5 ปี และอาจจำเป็นต้องทำการปลูกซ้ำเนื่องจากผมร่วงยังคงเกิดขึ้นตามอายุ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีอายุมากกว่าก็สามารถทำการปลูกผมได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมและร่างกายของแต่ละบุคคล ควรได้รับคำปรึกษาโดยแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาร่วมกัน
การปลูกผมเหมาะสำหรับผู้ที่มีผมบางและศีรษะล้านก่อนวัยหรือไม่?
การตัดสินใจปลูกผมไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุเพียงอย่างเดียว หากแต่ต้องพิจารณาถึงปัจจัยหลายประการ ทั้งสภาพเส้นผมในบริเวณที่รับการปลูก ความแข็งแรงของรากผมบริเวณที่บริจาค และความคาดหวังของแต่ละบุคคล สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาผมร่วงก่อนวัย การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพื่อประเมินสาเหตุและระดับความรุนแรงของปัญหา รวมถึงพิจารณาทางเลือกในการรักษาที่เหมาะสมที่สุด การปลูกผมอาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงคงที่และมีสุขภาพแข็งแรงเพียงพอ แต่ทั้งนี้ การดูแลรักษาเส้นผมและหนังศีรษะอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง ยังคงเป็นสิ่งที่ไม่อาจละเลยได้
การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะอย่างถูกวิธีช่วยป้องกันผมบางและศีรษะล้านก่อนวัยได้หรือไม่?
การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะอย่างถูกวิธีนั้นเปรียบเสมือนเกราะป้องกันชั้นดีที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของเส้นผมให้แข็งแรง แต่ทั้งนี้ ไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นการป้องกันผมบางและศีรษะล้านก่อนวัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ เนื่องจากปัญหาดังกล่าวมีปัจจัยหลากหลายที่เกี่ยวข้อง ทั้งพันธุกรรม ฮอร์โมน และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
อย่างไรก็ตาม การดูแลอย่างเหมาะสมจะช่วยชะลอความเสื่อมของเส้นผม ลดการหลุดร่วง และสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน การหลีกเลี่ยงสารเคมีและความร้อน การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการจัดการความเครียด ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรง
มีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการรักษาผมบางและศีรษะล้านก่อนวัยหรือไม่?
ทางเลือกในการรักษาผมบางและศีรษะล้านก่อนวัยที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากการปลูกผมซึ่งเป็นทางเลือกยอดนิยมแล้ว ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับหลายๆช่วงอายุ และไม่อยากทำการปลูกผม เช่น FRM Anti hair Loss, ALMI (Autologous Lipocyte Micronized Injection), Regenera Activa และ SVF (Stromal Vascular Fraction) ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้เซลล์และสารกระตุ้นการเจริญเติบโตจากร่างกายของผู้ป่วยเองเพื่อฟื้นฟูรากผมโดยไม่ต้องปลูก อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาใด ๆ ควรอยู่ภายใต้การดูแลและคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
มีวิธีใดบ้างในการชะลอหรือป้องกันผมบาง ผมร่วงและศีรษะล้านก่อนวัย?
การป้องกันผมบางและศีรษะล้านก่อนวัย หลายคนอาจนึกถึงการรักษาที่ซับซ้อน แต่ในความเป็นจริง การดูแลตนเองอย่างพิถีพิถันในชีวิตประจำวันก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน การดูแลสุขภาพองค์รวมคือรากฐานสำคัญของการมีเส้นผมที่แข็งแรง การรับประทานอาหารที่สมดุล เปี่ยมด้วยสารอาหารจำเป็น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และการจัดการความเครียดอย่างชาญฉลาด ล้วนส่งผลดีต่อสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผม อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี การดูแลตนเองอาจไม่เพียงพอ หากมีปัจจัยทางพันธุกรรมหรือฮอร์โมนเข้ามาเกี่ยวข้อง การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำในการใช้ยา หรือการรักษาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ ก็เป็นทางเลือกที่ควรพิจารณา
ปรึกษาฟรีได้แล้ววันนี้! สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
The Skin Clinic ทุกสาขา
